หัวเราะเปรียบเสมือนยาวิเศษ คนที่หัวเราะง่ายหรือหัวเราะเป็นประจำมักดูเบิกบาน มีความสุข และไม่ค่อยเครียด นอกจากจะช่วยให้จิตใจผ่อนคลายแล้ว การหัวเราะยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายในด้านต่าง ๆ อีกด้วย เช่น ช่วยกระตุ้นระบบหัวใจและหลอดเลือด และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
หัวเราะส่งผลอย่างไรต่อร่างกายและจิตใจ ?
การหัวเราะเป็นการแสดงออกถึงความสุขอย่างหนึ่ง และในขณะหัวเราะบางคนอาจมีอาการหน้าแดง เหงื่อแตก และหายใจไม่ทันด้วย เพราะสมองหลั่งฮอร์โมนเอนโดรฟินซึ่งเป็นสารเคมีแห่งความสุขออกมาจนทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยาดังกล่าว นอกจากนั้น การหัวเราะยังกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้าและกล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกาย และเพิ่มอัตราการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึงระดับความดันโลหิต ซึ่งส่งผลให้ออกซิเจนถูกลำเลียงไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้มากขึ้น ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นด้วย
แม้ว่ายังไม่มีวิจัยอย่างเป็นทางการว่าการหัวเราะช่วยรักษาโรคได้ แต่มีรายงานว่าการหัวเราะส่งผลดีต่อสุขภาพเทียบเท่ากับการออกกำลังกาย โดยประโยชน์ของการหัวเราะนั้นมีหลายประการ ดังนี้
ลดปวด คลายเครียด เพิ่มความสุข
หากใครกำลังเผชิญหน้ากับภาวะเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ การขบขันกับเรื่องสนุกต่าง ๆ จะช่วยให้สถานการณ์นั้นดีขึ้นได้ เพราะการหัวเราะทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น อันเป็นผลให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ คลายตัว และทำให้สมองหลั่งสารเอนโดรฟินออกมา ซึ่งนอกจากจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในร่างกายแล้ว ยังช่วยทำให้อารมณ์ดี มองโลกในแง่บวกมากขึ้น และช่วยให้รับมือกับภาวะซึมเศร้าหรือภาวะวิตกกังวลได้ดีขึ้น โดยเคยมีรายงานว่าผู้ที่ใช้เสียงหัวเราะบำบัดความเครียดมักนึกถึงตัวเองในแง่ดีและไม่ค่อยรู้สึกเหงา และมีงานค้นคว้าที่พบว่าผู้ป่วยสมองเสื่อมสามารถใช้เสียงหัวเราะบำบัดอาการกระสับกระส่ายได้ดีเท่า ๆ กับการรับประทานยารักษาอาการทางจิตเวชโดยไม่มีีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายใด ๆ
กระตุ้นหัวใจและหลอดเลือด
การหัวเราะทำให้หัวใจและปอดทำงานมากขึ้นซึ่งทำให้เลือดสูบฉีดได้ดีขึ้น ออกซิเจนจึงถูกขนส่งไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายได้มากขึ้น รวมทั้งช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ นอกจากนี้ การหัวเราะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขเอนโดรฟินที่ช่วยให้รับมือกับความรู้สึกแย่หรือความเครียดได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ด้วย
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
การหัวเราะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารสื่อประสาทที่ช่วยต่อต้านความเครียดและภาวะเจ็บป่วยอื่น ๆ ช่วยเพิ่มปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ในระบบไหลเวียนเลือดซึ่งช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มปริมาณเซลล์ภูมิคุ้มกันซึ่งรวมถึงสารแอนติบอดีที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้ ยิ่งไปกว่านั้น การหัวเราะยังทำให้กระบังลมทำงานมากขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลือง สารพิษในร่างกายจึงถูกกำจัดออกไปได้ง่าย
ช่วยเผาผลาญพลังงาน
อาการเหนื่อยหอบจากการหัวเราะแสดงให้เห็นว่าร่างกายต้องใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาชิ้นหนึ่งที่พบว่าการหัวเราะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจกว่า 10-20 เปอร์เซ็นต์ และช่วยเผาผลาญพลังงานได้ 10-40 แคลอรี่/วัน โดยมีรายงานว่าผู้ที่หัวเราะเพียง 1 นาทีมีอัตราการเต้นของชีพจรเท่ากับผู้ที่ออกกำลังกายบนเครื่องกรรเชียงบก 10 นาที และผู้ที่หัวเราะอย่างต่อเนื่อง 10-15 นาทีสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 50 แคลอรี่ นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ป่วยเบาหวานมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงภายหลังจากการดูภาพยนตร์ตลกด้วย
หัวเราะยาก แก้ไขอย่างไรดี ?
แม้การหัวเราะฟังดูเป็นเรื่องง่าย แต่อาจเป็นเรื่องยากสำหรับบางคน ซึ่งทุกคนสามารถฝึกหัวเราะเพื่อให้ร่างกายรับประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้ โดยอาจเริ่มจากการหากิจกรรมที่ชวนให้ขบขัน ฝึกหัวเราะกับตัวเองเมื่อรู้สึกเครียด อ่านหนังสือการ์ตูนหรือดูภาพยนตร์ตลก สังสรรค์กับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงเพื่อแบ่งปันเรื่องสนุกที่สร้างเสียงหัวเราะได้ให้แก่กัน ลองนึกถึงเรื่องราวขำขันหรือเรื่องตลกที่ช่วยให้หัวเราะได้ หรืออาจศึกษาข้อมูลแล้วเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มโยคะหัวเราะ เป็นต้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการหัวเราะเยาะปมด้อยหรือเรื่องน่าอับอายของผู้อื่น เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องตลกไม่ออกสำหรับผู้ที่ถูกล้อเลียนแล้ว ยังทำลายสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกันได้อีกด้วย