อาการของไข้เลือดออก ไข้เลือดออก (Dengue Fever)
อาการของโรคไข้เลือดออกมักจะปรากฏหลังจากได้รับเชื้อแล้วประมาณ 4–10 วัน ในรายที่มีการติดเชื้อซ้ำ อาการของโรคมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นและอาจนำไปสู่ภาวะไข้เลือดออกชนิดรุนแรงได้
โรคไข้เลือดออกแบ่งได้ 2 ระดับอาการ ตามระดับความรุนแรงของโรค ดังนี้
ไข้เลือดออก
ผู้ป่วยจะมีไข้สูงมาก เป็นอาการนำประมาณ 2‒3 วัน หลังจากนั้นจะมีอาการแสดงอื่นตามมา คือ ปวดและวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดรอบกระบอกตา ปวดตามกล้ามเนื้อ และมีผดผื่นแดงบริเวณผิวหนัง หากได้รับการดูแลรักษาเบื้องต้น และไม่มีการพัฒนาของโรคหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน อาการจะทุเลาลงและหายป่วยได้เองภายใน 2‒7 วัน
ไข้เลือดออกชนิดรุนแรง (Severe Dengue Hemorrhagic Fever)
ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงกว่าไข้เลือดออกธรรมดา โดยอาการจะเริ่มจากไข้ลดลงต่ำกว่า 38 องศาเซลเซียส และอาจเกิดอาการอื่นตามมาหลังจากนั้น 1–2 วัน เช่น
- ปวดท้องรุนแรง เบื่ออาหาร อาเจียนอย่างหนักอย่างน้อย 3 ครั้งใน 24 ชั่วโมง
- หายใจลำบากหรือหายใจถี่
- อ่อนเพลีย กระสับกระส่าย
- มีเลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน มีเลือดปนในปัสสาวะหรืออุจจาระ และอาจพบจ้ำเลือดหรือห้อเลือดบริเวณผิวหนัง
ผู้ป่วยในระยะนี้ถือเป็นภาวะวิกฤต เนื่องจากหลอดเลือดเกิดความเสียหาย พลาสมารั่ว เลือดออกรุนแรง เกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะช็อก (Dengue Shock Syndrome: DSS) การทำงานของอวัยวะล้มเหลว และอาจเสียชีวิตได้ จึงควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ผู้ป่วยควรสังเกตอาการของตนเอง โดยเฉพาะหากมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดหัวรุนแรง หรือมีเลือดออกง่าย อย่างเลือดกำเดา เลือดออกตามไรฟัน มีห้อเลือดหรือผดผื่นแดงบริเวณผิวหนัง ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณของการป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกที่ควรรีบไปพบแพทย์