ฝันว่าตกจากที่สูง สาเหตุและวิธีช่วยให้พ้นจากฝันร้าย

ฝันว่าตกจากที่สูงเป็นฝันร้ายที่หลายคนอาจเคยประสบ และอาจเคยสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะความฝันนี้หลายครั้ง และสงสัยว่าสาเหตุของความฝันนั้นมาจากความเครียด วิตกกังวล หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ หรือไม่ บทความนี้จะพาไปดูสาเหตุและวิธีป้องกันฝันร้ายกัน 

การฝันว่าตกจากที่สูงสามารถตีความสาเหตุได้หลายอย่าง โดยอาจเกิดขึ้นเพราะเพิ่งไปสถานที่ที่มีความสูงมาก อย่างการไปปีนเขาหรือชมตึกระฟ้า แต่ก็อาจเกิดจากอารมณ์ความรู้สึกบางอย่าง เช่น เครียด กังวล กลัว ควบคุมอะไรไม่ได้ ซึ่งความฝันอาจหายไปเองเมื่อผ่านช่วงเครียดหรือช่วงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิต แต่ถ้ายังฝันร้ายบ่อย ๆ ก็อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจและร่างกายได้

Dreaming about Falling from Height

สาเหตุของความฝันว่าตกจากที่สูง

ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัดว่าทำไมคนเราจึงฝันและทำไมจึงฝันต่างกัน สาเหตุของการฝันว่าตกจากที่สูงจึงอาจเป็นไปได้หลายอย่าง เช่น

1. ความเครียดและความรู้สึกต่าง ๆ 

ถึงแม้จะไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าทำไมเราจึงฝันร้ายในรูปแบบต่าง ๆ แต่ก็มีงานวิจัยเกี่ยวกับสาเหตุของการฝันว่าตกจากที่สูงว่าอาจมีสาเหตุมาจากความรู้สึก เช่น ความกลัว ความรู้สึกหมดหนทางหรือรู้สึกถูกปฏิเสธ โดยความรู้สึกกลัวหรือหมดหนทางอาจมาจากสถาณการณ์ที่ทำให้เครียด หรือการเผชิญความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ส่วนความรู้สึกว่าถูกปฏิเสธก็อาจมาจากการที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนรัก ครอบครัว และเพื่อนได้ 

นอกจากความกลัว ความรู้สึกหมดหนทางและรู้สึกว่าตนเองถูกปฏิเสธแล้ว การฝันว่าตกจากที่สูงก็อาจมาจากความรู้สึกอื่น ๆ เช่น กังวล ไม่มั่นคง ควบคุมอะไรไม่ได้ รู้สึกด้อยกว่าคนอื่น และความรู้สึกกดดันอย่างมาก (Overwhelmed) ซึ่งเกิดจากความเครียด 

การฝันว่าตกจากที่สูงเนื่องจากความเครียดและความรู้สึกต่าง ๆ นั้นอาจหายไปเองหลังผ่านช่วงเครียดไปแล้ว แต่หากมีความเครียดและวิตกกังวลเรื้อรังก็อาจทำให้ฝันร้ายบ่อยจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตได้ 

2. โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD)

โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (Post-Traumatic Stress Disorder; PTSD) เป็นความผิดปกติทางจิตที่เกิดหลังประสบเหตุการณ์สะเทือนใจ หรือเหตุการณ์ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งโรคนี้สามารถส่งผลให้มีฝันร้ายที่ชัดเจนและเกิดขึ้นบ่อยครั้งได้ รวมถึงอาจทำให้ฝันว่าตกจากที่สูงด้วย 

อาการฝันร้ายบ่อย ๆ อาจส่งผลให้อาการของโรค PTSD แย่ลงและส่งผลต่อการนอนหลับจนนำไปสู่โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) ได้ ผู้ที่ฝันร้ายจากโรคนี้จึงควรไปพบนักบำบัด ซึ่งจะช่วยให้รับมือกับเหตุการณ์ในอดีตและอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ได้ดีขึ้น รวมถึงลดอาการฝันร้ายได้ด้วย

3. ฝันแบบรู้ตัว (Lucid Dream)

ฝันแบบรู้ตัวหรือ Lucid Dream คือการที่รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในความฝัน และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง โดยผู้ที่มีฝันแบบรู้ตัวมักจะเห็นภาพความฝันที่ชัดเจนและเสมือนจริงอย่างมาก ทั้งยังสามารถอธิบายสิ่งที่เห็น สัมผัส หรือรู้สึกในฝันได้เมื่อตื่นขึ้นมา การฝันว่าตกจากที่สูงจึงอาจเป็นสัญญาณว่ากำลังมีฝันแบบรู้ตัว เนื่องจากผู้ที่ฝันว่าตกจากที่สูงมักจดจำความรู้สึกขณะร่วงหล่นได้อย่างชัดเจนแม้จะตื่นขึ้นมาแล้วก็ตาม

สาเหตุของการฝันแบบรู้ตัวนั้นยังไม่สามารถรู้ได้แน่นอน แต่ก็อาจมีสาเหตุจากการตื่นขึ้นมาขณะอยู่ในช่วง REM Sleep (Rapid Eye Movement Sleep) ซึ่งเป็นช่วงหนึ่งในวงจรการนอนที่สมองตื่นตัวและมักเกิดความฝันได้ง่ายก็เป็นได้ 

การฝันแบบรู้ตัวอาจช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และอาจช่วยลดความวิตกกังวลหรือความเครียดได้ เนื่องจากผู้ที่ฝันมักรู้ตัวอาจควบคุมความฝันบางส่วนได้ แต่การฝันแบบรู้ตัวก็อาจส่งผลให้คุณภาพการนอนลดลงจนพักผ่อนไม่เพียงพอ และอาจนำไปสู่ความเครียดที่เพิ่มขึ้นได้เช่นกัน  

นอกจากนี้ เวลาฝันว่าตกจากที่สูง บางคนอาจเคยมีประสบการณ์แขนหรือขาข้างหนึ่งกระตุกจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วย ซึ่งอาการนี้เรียกว่า นอนกระตุก (Hypnic Jerks) อาการนอนกระตุกนั้นมีสาเหตุไม่แน่ชัด แต่ก็อาจมีผลมาจากการฝันว่าตกจากที่สูง หรือความรู้สึกว่ากำลังตกจากที่สูงขณะหลับได้

อาการนอนกระตุกหลังจากฝันว่าตกจากที่สูงไม่ใช่อาการที่น่ากังวลและสามารถพบได้ทั่วไป แต่หากเกิดอาการนี้พร้อมกับการฉี่รดที่นอน กัดลิ้น ตื่นมาแล้วสับสน กระตุกจนทำให้ร่างกายบาดเจ็บ หรือเกิดอาการตอนกลางวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้

วิธีป้องกันฝันร้าย 

ถึงแม้การฝันว่าตกจากที่สูงจะเป็นความฝันที่สามารถเกิดได้กับหลายคนและไม่ส่งผลอันตรายหากไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่ฝันร้ายก็อาจเป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจได้ ดังนั้นผู้ที่อยากป้องกันฝันร้ายจึงอาจลองใช้วิธี ดังนี้

โดยทั่วไปแล้วการฝันว่าตกจากที่สูงเป็นครั้งคราวนั้นไม่น่ากังวล และเป็นความฝันที่พบได้ในคนส่วนใหญ่ แต่ถ้าฝันว่าตกจากที่สูงหรือฝันร้ายแบบอื่นมากกว่าหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ หรือเริ่มฝันร้ายหลังจากใช้ยารักษาบางชนิด รวมถึงถ้าฝันร้ายส่งผลต่อการนอน อารมณ์และการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม