สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer)
มีหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งที่บริเวณปากมดลูก ซึ่งอาจเกิดจาก
การติดเชื้อไวรัส HPV
การติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ที่บริเวณปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
ไวรัส HPV มักติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยทั่วไป ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันที่จะกำจัดเชื้อนี้อออกไปได้ภายใน 2 ปี แต่ในบางรายก็ไม่สามารถกำจัดเชื้ออกไปได้หมด และการติดเชื้อนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง DNA ที่เซลล์ปากมดลูก จนอาจพัฒนาเป็นเซลล์ที่เจริญเติบโตผิดปกติอย่างควบคุมไม่ได้ กลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
แม้จะเป็นสาเหตุหลัก แต่ไม่ใช่ไวรัส HPV ทุกตัวที่ก่อมะเร็งได้ โดยส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิดมะเร็ง มีเพียง 15 สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง โดยสายพันธุ์หลักที่ติดเชื้อแล้วมีความเสี่ยงสูงมากที่สุดในการพัฒนาเป็นมะเร็ง คือ HPV-16 และ HPV-18
ดังนั้น จึงไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่ติดเชื้อ HPV แล้วจะพัฒนาไปสู่โรคมะเร็งปากมดลูกได้ และการพัฒนาจากเซลล์ที่ผิดปกติไปเป็นเซลล์มะเร็งก็ใช้เวลานานหลายปีหรือหลายสิบปี การตรวจร่างกายประจำปีจึงมีส่วนช่วยในการยับยั้งป้องกันโรคและการลุกลามของโรคได้เป็นอย่างดี
การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในระยะก่อนมะเร็งปากมดลูก (CIN)
ปัจจัยนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงเซลล์บริเวณเยื่อบุปากมดลูก อย่างการเปลี่ยนโครงสร้าง DNA ของเซลล์ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่อาจไม่มีการพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็ง หรืออาจมีการพัฒนาไปเป็นมะเร็งแต่ต้องใช้ระยะเวลานานหลายปี
การมีภูมิคุ้มกันต่ำ
การมีภูมิคุ้มกันต่ำทำให้ร่างกายต้านทานต่อเชื้อโรคหรือสารก่อมะเร็งได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจเกิดจากปัจจัยใน สุขภาพร่างกายของบุคคล ผลข้างเคียงจากการป่วยด้วยโรคต่าง ๆ หรือปัจจัยภายนอกอย่างการใช้ยาที่ลดระดับภูมิคุ้มกันของร่างกาย อย่างยากลุ่มกดภูมิต้านทาน (Immunosuppressants) ติดต่อกันเป็นเวลานาน
โดยยากลุ่มนี้มักใช้รักษาในผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานมากเกินไป เช่น ผู้ป่วยภูมิแพ้https://www.pobpad.com/โรคภูมิแพ้ ผู้ที่ร่างกายต่อต้านหลังการปลูกถ่ายอวัยวะใหม่
การสูบบุหรี่
สารเคมีที่พบในบุหรี่จะส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ปากมดลูก ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จึงมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าผู้ที่ไม่สูบ และสำหรับผู้หญิงที่มีลูกหลายคน ยังมีทฤษฎีที่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในขณะตั้งครรภ์ จะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกอ่อนแอลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV แล้วไม่สามารถกำจัดเชื้อไปได้