อาการของมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer)
ผู้ป่วยมักไม่มีอาการป่วยที่ปรากฏชัดเจนในระยะแรกของโรคมะเร็งปากมดลูก แต่มักพบอาการแสดงในระยะที่เซลล์มะเร็งเริ่มพัฒนาลุกลามไปแล้ว
มะเร็งปากมดลูกมีระยะพัฒนาโรค ดังนี้
- ระยะก่อนมะเร็ง มีการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพบริเวณปากมดลูกที่สามารถก่อมะเร็งได้ในอนาคต อย่างเซลล์เยื่อบุปากมดลูกมีการแบ่งตัวผิดปกติ แต่ยังไม่พบเซลล์มะเร็ง ลักษณะดังกล่าวนี้เรียกว่า Cervical Intraepithelial Neoplasia (CIN) หรือ Carcinoma In Situ (CIS)
- ระยะที่ 1 มะเร็งก่อตัวและฝังอยู่บริเวณปากมดลูก
- ระยะที่ 2 มะเร็งเริ่มแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อในบริเวณใกล้เคียงช่องคลอดส่วนบนแต่ยังไม่ลามไปถึงเนื้อเยื่อผนังอุ้งเชิงกรานหรือช่องคลอดส่วนล่าง
- ระยะที่ 3 มะเร็งแพร่ไปทั่วบริเวณเนื้อเยื่อบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือช่องคลอดส่วนล่าง
- ระยะที่ 4 มะเร็งลุกลามไปยังกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ ปอด ตับ กระดูก และอวัยวะอื่น ๆ
โดยทั่วไป อาการที่พบมักจะมีดังต่อไปนี้
- เลือดไหลออกจากช่องคลอดอย่างผิดปกติ โดยที่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน อาจมีเลือดออกหลังเพิ่งมีประจำเดือนผ่านไปไม่นาน หรือมีเลือดออกในผู้ที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน
- เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
- ช่องคลอดมีกลิ่นผิดปกติ
- ปวดท้องน้อย หรือปวดท้องบริเวณอุ้งเชิงกรานที่ไม่ใช่ปวดประจำเดือน
นอกจากนี้ มีบางอาการที่อาจเกิดขึ้นตามมา อันเป็นผลมาจากการที่มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะและระบบต่าง ๆ บริเวณข้างเคียง เช่น ท้องผูก ไม่อยากอาหาร น้ำหนักลด เจ็บปวดตอนปัสสาวะ กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะมีเลือดปน ปวดหลังและปวดด้านข้างลำตัวอันเป็นผลมาจากภาวะไตบวม ร่างกายอ่อนล้า ไม่มีแรง เป็นต้น
ส่วนอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยทรุดลงหรือถึงแก่ชีวิต จะเป็นอาการจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดจากการลุกลามของเซลล์มะเร็ง